คงไม่มีใครอยากทำธุรกิจแล้วเกิดข้อผิดพลาด เพราะความผิดพลาดมีราคาที่ต้องจ่ายเสมอ แม้ความผิดพลาดเหล่านั้นอาจเกิดขึ้นในบางครั้ง โดยเฉพาะความผิดพลาดที่เกิดจาก Harman Error แต่เราสามารถหาแนวทางป้องกันเพื่อกำจัดความเสี่ยง หรือป้องกันก่อนที่จะเกิดข้อผิดพลาดขึ้นได้ การนำเทคโนโลยีทันสมัยมาช่วยในการทำงานอย่าง ระบบ RPA ไม่เพียงแต่ช่วยลดข้อผิดพลาดแต่ยังเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการทำงานได้อีกด้วย
RPA คืออะไร
ระบบ RPA ย่อมาจากคำว่า Robotic Process Automation คือ ซอฟแวร์ที่สามารถเลียนแบบพฤติกรรมของมนุษย์ได้ มีการออกแบบขั้นตอนการทำงาน กระบวนการทำงาน หรือการตัดสินใจต่างๆ เพื่อให้เกิดการทำงานขึ้นซ้ำๆ และสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำงานได้ต่อเนื่อง 24 ชม. ลดข้อผิดพลาดที่เกิดจาก Human error เพราะถ้าหากคนเราต้องทำงานซ้ำๆ ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ย่อมเสี่ยงเกิดข้อผิดพลาดขึ้นได้เสมอ อาจเกิดการสับสนหรือเกิดความเหนื่อยล้า มันจะดีกว่าไหมถ้านำซอฟแวร์อัตโนมัตินี้เข้ามาช่วย ความผิดพลาดน้อยลง ทำงานเร็วขึ้น เปลี่ยนกระบวนการทำงานซ้ำๆ ให้เป็นเรื่องที่ง่ายดายถูกต้องและแม่นยำ
ทำไม RPA จึงสำคัญกับธุรกิจทุกขนาด
ระบบ RPA (Robotic Process Automation) เหมาะกับธุรกิจทุกขนาด ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก ธุรกิจขนาดกลางหรือธุรกิจขนาดใหญ่ การทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน เราก้าวเข้าสู่โลกดิจิทัลเต็มรูปแบบ เครื่องมือ RPA จะเข้ามาเปลี่ยนรูปแบบการทำงานเดิมๆ ให้มีความทันสมัยมากขึ้น เพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการทำงาน ลดข้อผิดพลาดที่เกิดจากการทำงานของมนุษย์ นอกจากนั้นพนักงานยังไม่ต้องเสียเวลาไปกับการทำงานรูปแบบเดิมซ้ำๆ สามารถเอาเวลาอันมีค่าไปทำอย่างอื่นได้ เครื่องมือ RPA ได้รับการพิสูจน์หลายองค์กรมันสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างแท้จริง
- สามารถนำไปประยุกต์การทำงานร่วมกับแอปพลิเคชั่นได้
- สามารถปรับเปลี่ยนหรือขยาย รองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต
- ผสานเข้ากับ Analytics Tools, AI รองรับดิจิทัล Workforce ได้ครบวงจร
- ใช้งานง่าย มีความมั่นคงและมีความปลอดภัยในการใช้งาน
ธุรกิจในยุคปัจจุบันเต็มไปด้วยการแข่งขันอันดุเดือดโดยเฉพาะการทำธุรกิจออนไลน์ ดังนั้นการมีระบบ RPA เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เพิ่มศักยภาพทางด้านการแข่งขัน ในขณะที่ธุรกิจคู่แข่งยังคงมีกระบวนการทำงานที่ล้าหลัง แต่ธุรกิจของคุณกลับก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
ธุรกิจอะไรบ้างที่ควรใช้ระบบ RPA
RPA ย่อมาจาก Robotic Process Automation เหมาะกับธุรกิจแบบใด ระบบ RPA เหมาะกับธุรกิจทุกขนาด โลกยุคปัจจุบันก้าวสู่โลกดิจิทัลเต็มรูปแบบ การทำธุรกิจจะล้าหลังไม่ได้ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานแบบใหม่ให้ทันสมัยมากขึ้นด้วยการพึ่งพาเครื่องมือที่ทันสมัย เช่น เครื่องมือ RPA อย่างที่บอกมันสามารถนำมาประยุกต์ปรับใช้กับการดำเนินงานในธุรกิจได้หลากหลายประเภท อาทิเช่น ธุรกิจประกันชีวิต ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจการดูแลสุขภาพไปจนถึงธุรกิจภาคโรงงานอุตสาหกรรม ธุรกิจหน่วยงานของภาครัฐ ฯลฯ
ยกตัวอย่างการใช้งานระบบ RPA เช่น การนำมาใช้ทำ Invoice Reconciliation เพียงสแกนเอกสารใบแจ้งนี้ที่ต้องการตรวจสอบ จากนั้นนำมาเก็บในโฟเดอร์ สั่งโรบอททำงานด้วยฟังก์ชั่น OCR ดึงข้อมูลออกมาตรวจเช็คความถูกต้อง ใช้เวลาไม่เกิน 5 วินาทีเท่านั้น หรือจะนำมาใช้ในการชำระเงินของลูกค้า โดยฝ่ายการเงินนำ RPA มาช่วยตรวจสอบการชำระเงิน ดึงเอาข้อมูลใน Statement จากเว็บไซต์ธนาคารเพื่อนำมาประมวลผล รายงานและอัปเดตเข้าระบบ ช่วยให้ทราบสถานะการจ่ายเงินได้ในทันที
สรุป
ตลอดจนการนำ ระบบ RPA มาใช้ในการตรวจสอบเอกสารการส่งคืน แผนกจัดซื้อใช้เครื่องมือนี้ตรวจสอบความเรียบร้อยและความถูกต้องในการส่งคืนสินค้า เทียบระหว่างข้อมูลสินค้าและใบขนสินค้า ใบเสนอราคา ระบบ RPA ร่วมกับ OCR นำข้อมูลไปเก็บในระบบภายในองค์กรช่วยให้สามารถจัดการเอกสารได้ทันที ลดเวลาในการทำงานของพนักงานได้ 100% นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการนำซอฟแวร์อัตโนมัตินี้มาใช้งานเท่านั้น RPA สามารถนำเข้ามาใช้งานได้ทุกแผนก ทุกภาคส่วน เพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มความสะดวกรวดเร็วความถูกต้องและความแม่นยำในการทำงานได้อย่างแท้จริง
ทั้งหมดนี้จะเห็นได้ว่าระบบ RPA มีความสำคัญอย่างมากต่อธุรกิจในทุกๆ ขนาดไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก ธุรกิจขนาดกลางหรือธุรกิจขนาดใหญ่ สามารถนำเครื่องมือดังกล่าวนี้ ไปประยุกต์ใช้ในการทำงานได้หลากหลาย เพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการทำงาน ลดข้อผิดพลาดที่เกิดจาก Human Error เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เพิ่มศักยภาพในด้านการแข่งขัน สำหรับธุรกิจที่เล็งเห็นความสำคัญของการนำเครื่องมือ RPA มาใช้งานแต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ปรึกษาเราได้ Greenmoons กรีนมูนส์เรายินดีให้คำปรึกษา จากบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยี สู่ผู้เชี่ยวชาญด้านซอฟแวร์ RPA Developer พัฒนาโซลูชั่นทั้งโปรแกรมผลิตใหม่และพร้อมใช้งาน